ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าทำงานหนักแต่ไม่เห็นผลหรือไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร อาจจะเป็นเพราะคุณมี mindset ในการทำงานที่ไม่ถูกต้องอยู่ก็ได้
วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง 10 mindset ในการทำงานแบบผิด ๆ ที่ควรรีบแก้ด่วนถ้าอยากประสบความสำเร็จในชีวิต มาดูกันว่า mindset ไหนที่คุณควรเปลี่ยนแปลงทันที!
1. ทำงานเพียงเพื่อเงิน
จอย เป็นพนักงานที่มาทำงานที่บริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง เธอทำงานหนักทุกวัน แต่ทำงานไปด้วยความรู้สึกว่ามันเป็นภาระ เธอมาทำงานทุกวันเพียงเพราะเงินเดือนสูงเท่านั้น แต่เธอไม่มีความสุขและไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงานเลย
วันหนึ่ง จอยได้มีโอกาสพูดคุยกับนีน่า เพื่อนร่วมงานที่ดูมีความสุขและเต็มไปด้วยพลัง นีน่าเล่าว่าเธอรักในสิ่งที่ทำและมองว่างานเป็นการพัฒนาตนเองและสร้างสิ่งที่มีคุณค่า นีน่าชวนจอยเข้าร่วมโครงการใหม่ที่ท้าทายและต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ จอยตัดสินใจลองเข้าร่วมและพบว่ามันทำให้เธอรู้สึกสนุกและตื่นเต้น เธอเริ่มมองหาความหมายและความท้าทายใหม่ ๆ ในงานของเธอ และพบว่าความสุขในการทำงานมาจากการทำสิ่งที่เธอรักและเห็นคุณค่า
การทำงานเพียงเพื่อเงินจะทำให้คุณขาดแรงบันดาลใจและความพึงพอใจ ลองมองหาความสุขและความท้าทายจากงานที่ทำ เพื่อเปลี่ยน mindset ในการทำงานและทำให้ชีวิตการทำงานของคุณมีความหมายยิ่งขึ้น
2. กลัวการทำผิดพลาด
ไมค์ เป็นวิศวกรที่เก่งมาก แต่เขามักจะกลัวการทำผิดพลาดจนไม่กล้าลองทำสิ่งใหม่ ๆ เขามักจะยึดติดกับวิธีการเดิม ๆ และไม่กล้าลองทำโปรเจกต์ใหม่ ๆ ที่ท้าทาย เพราะกลัวว่าจะทำผิดพลาดและถูกตำหนิ
เมื่อบริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานนำเสนอโปรเจกต์ใหม่ ไมค์ตัดสินใจไม่เข้าร่วม แต่เพื่อนร่วมงานชื่อจอห์นกลับเสนอตัวทำโปรเจกต์ใหม่ที่เสี่ยงมาก ผลลัพธ์คือจอห์นทำพลาดในหลายส่วน แต่เขาไม่ท้อแท้และนำข้อผิดพลาดมาปรับปรุง จนสุดท้ายโปรเจกต์ของจอห์นได้รับความสำเร็จและชื่นชมจากทีมผู้บริหาร
ไมค์เห็นการเปลี่ยนแปลงของจอห์นจึงตัดสินใจลองเปลี่ยน mindset และเริ่มทำโปรเจกต์ใหม่ที่ท้าทาย แม้ว่าจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ไมค์ก็ได้เรียนรู้และปรับปรุงจนโปรเจกต์นั้นสำเร็จเช่นกัน
การกลัวการทำผิดพลาดจะขัดขวางการเติบโตและการเรียนรู้ ลองเปิดใจรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน จะช่วยให้คุณก้าวหน้าและเติบโตได้มากขึ้น
3. ไม่ยอมรับคำติชม
แอนนาเป็นนักออกแบบกราฟิกที่มีความสามารถ แต่เธอไม่เคยยอมรับคำติชมจากลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานเลย เมื่อมีคนให้คำแนะนำ เธอจะรู้สึกไม่พอใจและคิดว่าตัวเองทำได้ดีที่สุดแล้ว
ครั้งหนึ่ง แอนนาส่งงานออกแบบให้ลูกค้ารายใหญ่ แต่ได้รับคำติชมว่าการออกแบบยังไม่ตรงตามที่ต้องการ แอนนารู้สึกท้อแท้และไม่พอใจ แต่เพื่อนร่วมงานชื่อเบลล่าเข้ามาปลอบใจและชวนให้แอนนาลองปรับปรุงตามคำแนะนำ
แอนนาตัดสินใจลองเปิดใจรับฟังคำแนะนำและปรับปรุงงานออกแบบของเธอ ผลลัพธ์ที่ได้คือการออกแบบที่ดียิ่งขึ้นและได้รับการยอมรับมากขึ้นจากลูกค้า แอนนารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองและเรียนรู้ที่จะยอมรับคำติชมเพื่อพัฒนาตนเอง
การไม่ยอมรับคำติชมเป็น mindset ในการทำงานที่ขัดขวางการพัฒนา ลองเปิดใจรับฟังและนำคำแนะนำมาปรับใช้ จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาและทำงานได้ดีขึ้น
4. ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
แจ็คทำงานในตำแหน่งเดียวกันมาหลายปี เขามักจะยึดติดกับวิธีการทำงานเดิม ๆ และไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แม้ว่าเทคโนโลยีและวิธีการทำงานใหม่ ๆ จะเข้ามา
วันหนึ่งบริษัทมีการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ แจ็คถูกบังคับให้เรียนรู้และปรับตัว แม้ว่าในตอนแรกเขาจะรู้สึกไม่พอใจและกังวล แต่เมื่อเขาลองเปิดใจและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ เขาพบว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด และการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้เขาสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การยึดติดกับวิธีการเดิม ๆ จะทำให้คุณตกอยู่ในสถานะที่หยุดนิ่ง ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ และพร้อมที่จะปรับตัวตามสถานการณ์ จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาตนเองและทำงานได้ดีขึ้น
5. ขาดการวางแผน
ซาร่าห์ทำงานในฝ่ายการตลาด เธอมักจะทำงานโดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทำให้เธอต้องทำงานล่าช้าและสูญเสียเวลาไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
วันหนึ่งซาร่าห์ได้รับมอบหมายให้ดูแลแคมเปญการตลาดขนาดใหญ่ เธอตัดสินใจลองวางแผนงานอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ เธอเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการวางแผนงานที่ต้องทำและติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้คือแคมเปญนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และได้รับคำชมจากหัวหน้าและลูกค้า
การทำงานโดยไม่มีการวางแผนจะทำให้คุณทำงานแบบไม่มีเป้าหมายและสูญเสียเวลา ลองเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการวางแผนงานที่ต้องทำและติดตามความก้าวหน้า จะช่วยให้คุณสามารถจัดการเวลาและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. มองงานเป็นภาระ
ทอมทำงานในฝ่ายบัญชี เขามักจะรู้สึกว่างานของเขาเป็นภาระหนักหนาและน่าเบื่อ เขามักจะทำงานด้วยความรู้สึกที่ไม่มีแรงบันดาลใจและพลัง
วันหนึ่งทอมได้เข้าร่วมการประชุมทีม ซึ่งมีการพูดถึงเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของบริษัท เขาได้เห็นว่าการทำงานของเขามีความสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทและการสร้างความมั่นคงให้กับลูกค้า ทอมเริ่มมองว่างานของเขาเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เขารู้สึกมีแรงบันดาลใจและพลังในการทำงานมากขึ้น
การมองงานเป็นภาระจะทำให้คุณขาดแรงบันดาลใจและพลังในการทำงาน ลองมองว่างานเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จะทำให้ชีวิตการทำงานของคุณมีความหมายยิ่งขึ้น
7. เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
เจนนี่เป็นนักขายที่เก่ง แต่เธอมักจะเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ และรู้สึกว่าไม่ดีพอ เมื่อเพื่อนร่วมงานประสบความสำเร็จ เธอมักจะรู้สึกไม่มีความสุขและขาดความมั่นใจ
วันหนึ่งเจนนี่ได้พบกับพอล ผู้จัดการฝ่ายขายที่ได้รับรางวัลพนักงานยอดเยี่ยม พอลบอกว่าเขาเคยรู้สึกเหมือนเจนนี่ แต่เขาได้เรียนรู้ว่าการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นไม่ได้ช่วยอะไร เขาจึงตั้งเป้าหมายของตัวเองและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองโดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร
เจนนี่ตัดสินใจลองทำตามคำแนะนำของพอล เธอตั้งเป้าหมายของตัวเองและมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะการขาย ผลลัพธ์คือเธอสามารถทำยอดขายได้ดีขึ้นและรู้สึกมีความสุขมากขึ้นในงานของเธอ
การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นตลอดเวลาจะทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขและขาดความมั่นใจ ลองตั้งเป้าหมายของตัวเองและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองโดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร จะช่วยให้คุณมีความสุขและมั่นใจมากขึ้น
8. ทำงานคนเดียว
จอห์นเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่ง แต่เขามักจะคิดว่าต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเอง เขามักจะไม่ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานและพยายามแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง
วันหนึ่งจอห์นได้เข้าร่วมโปรเจกต์ใหญ่ที่ต้องทำงานร่วมกับทีม เขารู้สึกกังวลเพราะไม่เคยทำงานเป็นทีมมาก่อน แต่เมื่อเขาลองเปิดใจและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน จอห์นพบว่าการทำงานเป็นทีมทำให้เขาเรียนรู้และพัฒนาได้รวดเร็วขึ้น ทีมงานสามารถแบ่งปันไอเดียและช่วยกันแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จอห์นเริ่มเปลี่ยน mindset ในการทำงาน เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำงานคนเดียวอีกต่อไป และพบว่าการทำงานร่วมกับทีมทำให้เขาสามารถทำงานได้ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น
การคิดว่าต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองเป็น mindset ในการทำงานที่ไม่ดี การทำงานเป็นทีมและการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นจะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
9. ไม่ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน
ลิซ่าเป็นผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ทุ่มเทกับงานอย่างมาก เธอทำงานตลอดเวลาและไม่เคยให้ความสำคัญกับการพักผ่อน ผลคือเธอเริ่มรู้สึกหมดไฟและมีสุขภาพที่แย่ลง
วันหนึ่งลิซ่าต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะความเครียดสะสม คุณหมอแนะนำให้เธอพักผ่อนและดูแลสุขภาพมากขึ้น ลิซ่าตระหนักถึงความสำคัญของการพักผ่อนและการดูแลตัวเอง เธอตัดสินใจปรับตารางการทำงานและให้ความสำคัญกับการพักผ่อนมากขึ้น
ลิซ่าพบว่าการให้ความสำคัญกับการพักผ่อนทำให้เธอมีพลังและสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น สุขภาพของเธอก็เริ่มดีขึ้นและเธอรู้สึกมีความสุขมากขึ้น
การทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่พักผ่อนจะทำให้คุณหมดไฟและขาดประสิทธิภาพ การให้ความสำคัญกับการพักผ่อนและการดูแลตัวเองจะช่วยให้คุณมีพลังและสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น
10. คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง
เดวิดเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ เขามักจะคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรมและไม่เคยยอมรับความคิดเห็นหรือไอเดียใหม่ ๆ จากทีมงาน
วันหนึ่งทีมของเดวิดต้องเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนในการพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่เดวิดไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยวิธีการที่เขารู้จัก ทีมงานเริ่มเสนอไอเดียและวิธีการใหม่ ๆ แต่เดวิดกลับปฏิเสธและยังคงยึดติดกับวิธีการเดิม
จนกระทั่งหนึ่งในทีมงานชื่อซาร่าได้นำเสนอแนวคิดใหม่ที่อาจช่วยแก้ปัญหาได้ เดวิดรู้สึกท้อแท้และตัดสินใจลองเปิดใจรับฟังซาร่า แนวคิดของซาร่าทำให้ทีมสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ เดวิดตระหนักถึงความสำคัญของการเปิดใจรับฟังและการเรียนรู้จากทีมงาน
การคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างและไม่ยอมรับความรู้ใหม่เป็น mindset ในการทำงานที่ขัดขวางการพัฒนา การเปิดใจรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอจะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคง
สรุป
การมี mindset ในการทำงานที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานได้ ลองสำรวจตัวเองและดูว่า mindset ไหนที่คุณอาจจะมีและควรแก้ไข แต่การมี mindset ที่ไม่ดี ก็ไม่ได้แปลว่าคุณล้มเหลว คุณแค่ยังไม่รู้เท่านั้น หากรู้แล้วพยายามปรับปรุงตัว อนาคตอันสดใสก็อาจจะรอคุณอยู่แน่นอน